Hong Kong (Day 1)
- Mayalita
- Jan 10, 2019
- 1 min read
เริ่มทริปไปแบบงงๆ แถมทริปนี้ยังเป็นทริปที่แอบที่บ้านไป จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าแอบไปเที่ยวฮ่องกงมา ☺
เป็นการไปแบบฟ้าผ่า 3 วัน 2 คืน ความพีคที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือการโดดเรียนวิชานึงไป ไปศุกร์เช้า กลับอาทิตย์บ่าย







ใช้เวลาอยู่บนฟ้าประมาณเกือบๆ 3 ชั่วโมงได้ เราก็มาถึง ✈ Hong Kong International Airport แล้วจ้า
เราชอบสนามบินฮ่องกงมาก ถ้ากับตันลงผิด หรือ ขึ้นผิดไปนิดนึงก็คือลงทะเลไปเลย เพราะ สุดทางรันเวย์ คือ ทะเลเลย ... ☹
เชื่อว่าการผ่าน immigration คือด่านที่ทุกคนกลัวที่สุด เราก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละที่กลัว ๆม่ว่าจะบินมากี่ครั้ง กี่ประเทศ ก็พ่ายแผ้ให้ตม.ตลอด กลัวตลอด แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยความรวดเร็ว 5555555555555
ปล. อยากจะแนะนำทุกคนนะ เวลาจะบินไปเที่ยวประเทศไหน ให้แต่งตัวดีๆเข้าไว้ก่อน เราว่าบุคลิกภายนอกเนี่ยสำคัญที่สุดนะ นุ่งน้อย ห่มน้อย กางเกงสั้น พับใส่กระเป๋าเดินทางเอาไว้ก่อนเนอะ เอาไว้ผ่านเข้าประเทศเขาไปได้แล้วอยากจะใส่ยังไงก็ใส่เนอะ
อีกเรื่องคือเอกสาร เตรียมเอกสารที่พัก ปริ้นใบจองโรงแรมไว้ กับตั๋วเครื่องบินขากลับเผื่อไว้ก่อนเลย เผื่อว่าตม.จะขอดู

หลังจากผ่านตม.มาได้แล้ว เราก็พุ่งไปหาแท็กซี่เพื่อไปโรงแรมเลยจ้า ด้วยความที่ไม่กล้านั่งรถไฟฟ้าจากสนามบินไปโรงแรม เพราะกลัวว่าพอไปถึงสถานีแล้วจะไม่รู้ว่าต้องออกทางออกไหน เราเลยตัดปัญหา กัดฟันนั่งแท็กซี่ไปโรงแรมเลย
นับว่าเรายังมีแต้งบุญเหลืออยู่ คือแท็กซี่รู้จักโรงแรมของเราค่าาา เย้!
อยากบอกว่าจุดประสงค์หลักข้อนึงของการมาฮ่องกงนี่คือ หลบอากาศร้อนที่ไทยนะ
สรุป...................ออกจากสนามบินมานี่ แทบจะกรีดร้องดังๆเลย ร้อนกว่าประเทศไทยอีก!!!!!!!!!!!

นี่คือที่พักของเรา Best Western Grand Hotel Hong Kong ห่างจากสถานี Jordan ไม่ไกล Lobby ด้านหน้าจะเน้นสีทอง สีมงคลตามคนจีนเขาอ่ะแหละ แต่มันทำให้ดูหรูดี เราชอบ




สภาพห้องพักก็ค่อนข้างเล็ก ตามสไตล์ห้องพักในฮ่องกงปกติแหละ กระเป๋าเดินทางเก็บใต้เตียงได้ มีช่องให้เก็บ แต่เราลืมถ่ายรูปมาให้ดู เราว่าสภาพห้องโดยรวมถือว่าหรูเลยนะในความคิดของเรา
ค่าเสียหาย 2 คืนประมาณ 3,000 - 4,000 บาท ตัดบัตรจากไทย ไม่ได้ไปจ่ายที่โรงแรม

วิวจากหน้าต่างห้องก็จะประมาณนี้5555 เป็นวิวด้านหลังโรงแรม จริงๆแล้วมันเป็นทางเข้าอีกทางของโรงแรมนะ ใครมาถึงแล้วยังไม่ถึงเวลา ยัง check-in ไม่ได้ แนะนำให้เข้าทางด้านหลังโรงแรม เพราะจะมาเจอกับที่ฝากกระเป๋าเลย เราสามารถฝากกระเป๋าแล้วไปเดินเล่นได้ก่อน
ซอยด้านหลังโรงแรมนี่ร้านอาหารก็เยอะพอสมควร แต่เรายังไมไ่ด้ทดลองเลยสักร้าน TT
ตรงข้ามโรงแรมด้านหลังจะมีบาร์เล็กๆอยู่ ราคาไม่แพงมากนะ ไปลองกันได้ อาหารก็อร่อย พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาเป็นมิตรมากๆ
เรามานั่งแพลนการเที่ยวของเราใน 3 วัน ลิสท์รายชื่อสถานที่ที่อยากไป หาเส้นทาง วิธีไป
สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า
○ วันที่ 1 จะเดินสำรวจบริเวณใกล้ๆโรงแรมก่อน เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้งอยู่แล้ว น่าจะไม่น่าเบื่อ แถมอาจ จะได้ของติดไม้ติดมือกลับไทย
○ วันที่ 2 ไป Disneyland
○ วันที่ 3 เก็บของกลับไทย เพราะไฟล์ทเราเช้า

เดินออกมาจากโรงแรม ก็จะเจอ Austin Road ที่นี่เป็นเหมือนย่านช้อปปิ้งย่านหนึ่งเลย ร้านค้าเยอะมากๆ ทั้งเครื่องสำอาง เสื้อผ้า ร้านโทรศัพท์ ฯลฯ แถมราคาถูกมากอีกด้วย บางร้านก็จะมีโปรโมชั่นลดราคา ซึ่งคนก็จะเยอะหน่อย
ทุกคนจะเห็นป้ายร้าน sasa สีชมพูที่มุมซ้ายของรูป ร้านนี้เราแนะนำสำหรับผู้หญิง เ)้นร้านเครื่องสำอาง มีทั้งของที่ผลิตในฮ่องกง และเครื่องสำอางนำเข้า บางชิ้นราคาถูกกว่าไทย แต่บางชิ้นก็แพงกว่าต้องลองคำนวณราคากันดีๆนะ




อาหารมื้อแรกในฮ่องกง แทนที่จะเป็นอาหารจีน แต่กลับเป็นอาหารเกาหลี ปิ้งย่าง ด้วยความหิว วินาทีนั้นคือเห็นอะไรขอกินก่อน 55555555




ช่วงใกล้คริสมาสต์ตามห้างต่างๆก็จะตกแต่งรับคริสมาสต์ เหมือนประเทศไทยแหละ

ที่เราชอบที่สุดก็จะเป็นพื้นห้าง ที่มีลวดลายน่ารักๆ มารู้ทีหลังว่านี่เป็นผลงานของ Mr. Doodle นักวาดภาพในจินตนาการ เคยอ่านเจอมาว่า ภาพวาดของเขาให้ลองมองดูดีๆ จะไม่มีตัวการ์ตูนที่ซ้ำกันเลย
ลองไปดูผลงานอื่นๆของเขาได้นะที่ instagram: @mrdoodle
หลังจากที่เดินมาตั้งแต่check-inโรงแรมเสร็จ จนเกือบๆ6โมงได้ เราเหนื่อยจนขาแทบหัก เหมือนจะไม่มีแรงเดิน เพราะเมื่อยามาก เลยตัดสินใจว่าจะกลับไปนอนพักสักแปปนึง
และก็นอนก็แปปนึงจริงๆ สุดท้ายอาการอยากลองร้านเหล้าที่ต่างประเทศก็มา ด้วยความที่อยากรู้ว่าร้านเหล้าของแต่ละประเทศจะเป็นยังไง เพลงจะเป็นยังไง บรรยากาศจะเป็นยังไง และสำคัญที่สุด...ผู้ชายจะเป็นยังไง จะหน้าตาหล่อไหม (◡‿◡✿)



และแล้วเราก็มาจบลงที่ Hard Rock Cafe จ้า
** การเดินทางก็นั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Central สถานีนี้เป็นสถานีใหญ่ มองป้ายดีๆระวังจะหลงไปขึ้นรถไฟฟ้าสายสีอื่นทาง หาป้ายทางออก ออกทางออก D2.
ออกมาแล้วเลี้ยวขวาจะเจอถนน Queen's Road Central. ข้ามถนนมาแล้วจะเป็นถนน D'Aguilar Street. เดินขึ้นเขาไปเลยจ้า ทางเดินเหมือนขึ้นเขาเบาๆ 555555 ขากลับใครเมาๆก็ระวังจะหัวทิ่มกัน ร้านจะอยู่ทางขวามือ
การเดินทางดูเหมือนยากแต่จริงๆแล้วไม่ยาก ชื่อถนนมีป้ายใหญ่ๆบอกให้เห็นชัดๆเลย ไม่ต้องกลัวหลง

นั่นแหละก็จบไป 1 วันในฮ่องกงแบบเรียบง่าย แทบไมไ่ด้เสียเงินอะไรมาก ถ้าตัดค่าช้อปปิ้งออก
สำหรับใครที่จะมาฮ่องกง เราขอแนะนำให้โหลดแอพ 2 แอพนี้ เลือกโหลดแอพใดแอพหนึ่งก็พอ


สองแอพนี้เป็นแอพที่บอกเส้นทางรถไฟฟ้า เอาไว้ดูกันหลง
ที่ฮ่องกงจะเรียกรถไฟฟ้าว่า MTR ซึ่งสลับกับคนไทยที่เรียก MRT
Comments